มาจากเฟซบุคเพจเราเองนะครับ ที่ facebook.com/EcommerceNEXT
วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556
คลาสปัจจุบัน
สนใจสมัครเชิญที่เฟซบุคนะครับ คลิกจาก Class บนเมนูบาร์ด้านบนได้เลยครับ :)
Listing VS. Item ประเด็นที่ผู้ใช้อีเบย์มักสับสนจนนำไปสู่การถูกแบนน์
LIMIT
ตัวเลขจำนวนที่ผู้ขายแต่ละคนได้รับทราบว่าเป็น "ลิมิตการขายแต่ละเดือน" (Monthly selling limits, สามารถเข้าดูได้โดยชี้เมาส์ไปที่ My eBay และเลือกคลิกที่ Listings ..ตัวเลขของใครของมันนะครับ อาจไม่เหมือนกันเลยก็ได้ เพราะเงื่อนไขในการได้รับนั้นเฉพาะรายไปครับ) นั้น จะชี้ไปที่จำนวนของไอเทม (Item) ไม่ใ่ช่จำนวนของรายการสินค้าที่สามารถสร้างได้ หรือ Listing.
ซึ่งสำหรับสมาชิกใหม่ในช่วงเวลาที่พิมพ์บทความนี้นั้น ลิมิตจะมีมูลค่า (ราคา) เข้ามาเป็นส่วนให้คำนวณด้วย คือ จำนวนสินค้านับเป็นชิ้น (ไอเทม) ลงได้ 10 ชิ้น ในรอบ 30 วัน โดยที่มูลค่าการขายราคาตั้งmyh' 10 ชิ้นต้องไม่เกิน $500.-หรือราว ๆ ฿15,000.- ..ขอย้ำอีกครั้งครับว่า "ชิ้น " ไม่ใช่ "รายการ".
Listing คือ รายการสินค้า
ใน 1 รายการจึงมีสินค้ามากกว่า 1 ชิ้นก็ได้
เช่นการลงรายการขายแบบที่มีตัวเลือก ตัวอย่างคือเสื้อยืดที่มีสี, ลาย และขนาดให้ผู้ซื้อได้เลือก
ซึ่งแต่ละตัวเลือกนั้น มองให้ดีถึงความเป็นจริง ย่อมเป็นเสื้อแต่ละตัวไปนั่นเอง
Item คือ รายหนึ่งชิ้นตัวสินค้า
คุณอาจทำรายการเพียง 1 รายการที่มีสินค้านับเป็นจำนวนรายชิ้นได้มากกว่า 1
ซึ่งทั้งหมดเมื่อรวมกันแล้วถ้าเกินตัวเลขลิมิตที่ได้รับมา ก็จะถูกจำกัดสิทธิ์เอาได้นั่นเอง
Listing อาจถูกจำกัดบ้างในเรื่องของหมวดหมู่สินค้า
แต่ละช่วงเวลาของอายุแอคเคาท์และแต้มสะสม ลิมิตเรื่องหมวดหมู่ของสินค้าที่คุณสามารถเข้าร่วมได้สามารถที่จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล นี่เองที่ทาง ebay พยายามย้ำอยู่เสมอ ว่าสมาชิกต้องติดตามข่าวสารจากภายใน My eBay ของตัวเองเป็นหลัก! ..การถามข่าวจากแหล่งอื่นหรือเทียบเคียงกับเงื่อนไขที่ผู้อื่นได้รับ..แล้วคุณเอามาทำตามเค้านั้น ไม่มีความสัมพันธ์กันเลยทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นใส่ใจที่จะคอยตามข่าว "ของคุณ" จาก My eBay "ของคุณ" ..ดีที่สุดครับ
.......
Copyright: All of wordings that appeared and EcommerceNEXT logo are copyright to facebook.com/EcommerceNEXT. The background photo is Image courtesy of Pixomar / FreeDigitalPhotos.net
Copyright: All of wordings that appeared and EcommerceNEXT logo are copyright to facebook.com/EcommerceNEXT. The background photo is Image courtesy of Pixomar / FreeDigitalPhotos.net
PayPal - คือคนกลางที่ดูแลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
หลายคนถามหาประมาณว่า..
จะมีมั้ยที่มีใครคิดให้บริการแบบเป็นคนกลาง ที่จะถือเงินผู้ซื้อไว้ก่อนจนผู้ซื้อได้รับสินค้าแล้วจึงปล่อยเงินให้ผู้ขาย
แล้วถ้าสินค้าเสียหาย, ไม่ตรงตามสั่ง, รับแล้วไม่พอใจ สามารถช่วยเรียกเงินคืนได้ หรือกระทั่งประกันการซื้อให้ด้วย
ตำคอบคือ "มี" ..และนั่นเองที่ PayPal เป็น-อยู่-คือ.
โต๊ะเจรจา..
เพย์พาลนั้นมีมิติหน้าที่หลักคือเป็นเหมือนโต๊ะเจรจา ซึ่งสำคัญกว่าการที่ผู้ใช้จะมองแค่ว่าเป็นธนาคารหรือกระเป๋าเงินออนไลน์. การที่ผู้ซื้อจ่ายเงินค่าสินค้าไปนั้น จะได้รับการคุ้มครองในอนาคตของเงินก้อนนั้น..หมายถึงคุณจะได้เงินคืนตามนโยบาย "Buyer Protection" ถ้าคุณไม่พอใจสินค้าและต้องการเรียกเงินคืน.
..ซึ่งเพย์พาลก็ตัดทางผู้ซื้อที่เป็นมิจฉาชีพไว้ ด้วยการตั้งกติกาว่า..ผู้ซื้อจะต้องส่งสินค้าคืนผู้ขายเสียก่อนด้วย อีกทั้ง..ทั้งสองฝ่ายจะต้องคุยกันผ่านโต๊ะเพย์พาลเท่านั้น เพื่อให้เป็นหลักฐานของการสนทนาต่อรอง และปกป้องสุจริตชน.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)